เรื่องของใจ

“ลื้อกับอั๊วะมาฉะกันดีกว่า!!” กัปตันทีมเลือดเดือดผู้มีใบหน้าของจอมปีศาจกระแทกใส่ใครบางคนที่ได้รับการสถาปนาเป็นผู้นำของกองพันปืนโตทะลักเดือดก่อนเกมฟาดแข้งที่ต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์หน้านึงของวงการฟุตบอลอังกฤษ ถึงไม่ใช่นัดชิงเอฟ เอ คัพหรือเกมชิงดำคว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพ ที่ต้องวัดกันในเกมสุดท้าย แต่ประวัติศาสตร์จำเป็นต้องจารึกไว้เพราะมันเป็นข้อเท็จจริงบนผืนหญ้าว่าพวกหน้าซื่อใจคดหรืออีกนัยหนึ่งนักแสดงในคราบนักฟุตบอลนี้มีอยู่จริง
พวกเขามักจะได้รับการปกป้องจากเจ้าป้ามหาภัยอย่างสม่ำเสมอ – – ขอโทษค่ะ บังเอิญดิฉันไม่เห็นเหตุการณ์ – – ประโยคอมตะที่ถูกหยิบยกมาใช้เป็นประจำเมื่อเธอผู้นี้ถูกนักข่าวถามถึงสถานการณ์เลวร้ายในสนามที่บันดาลูกศิษย์ของเธอทำไว้ประจานตัวเอง มันก็ได้ผลนะเพราะมีใครบางคนที่เป็นเพื่อนผมเข้าใจผิดว่าผู้เล่นทีมโปรดของตนบริสุทธิ์อยู่เสมอ แต่ก็เอาเถอะในเมื่อมันเป็นการปกป้องที่ดีและก็ทำให้ใครหลายคนหลงลืมว่าความจริงใจในสนามน่ะเป็นยังไง
อย่างน้อยในเกมนี้เราก็ได้เห็นถึงสามครั้งจะจะประมาณว่าฟ้องด้วยภาพกันไปเลย จังหวะแรกคงจะจำกันได้เพราะเป็นที่ครื้นเครงกันมากเมื่อน้าคีนโชว์เก๋าไม่เข้าบอลเอาดื้อๆ ปล่อยให้เจ้าลิงลมแอชลี่ย์ โคล หน้าแตกระยับหลังจากทิ้งตัวในเขตโทษอย่างสวยงาม
จังหวะที่สองก็ตอนเด็กรูนพยายามเบียดเอาบอลจากกัปตันปั๊ต ทว่ายังไม่ทันโดนตัวนักเตะเบอร์ 4 ผู้นั้นก็ลงไปนอนโอดโอยกุมข้อเท้าด้วยความเจ็บปวดและท่าทางจะไม่รู้ตัวด้วยว่าชาวบ้านชาวช่องเขาเห็นกันทั่วโลกแล้ว หรือไม่หัวหน้าฝูงลิงเถื่อนก็ถือคติ the show must go on เลยทำทีให้หมอสนามของทีมหิ้วปีกออกมาก่อนกลับไปวิ่งปร๋ออีกรอบ
จังหวะสุดท้ายก็ตอนที่ ‘นายแบบกางเกงใน’ เฟรดดี้ ลุงเบิร์กทิ้งตัวในเขตโทษดื้อๆ ประหนึ่งว่าถูก ‘จี. ไอ. ไฮน์เซ่’ ดักเข่าซะอย่างงั้น หารู้ไม่ว่าแบ็คซ้ายละตินโน่ของเราน่ะเก๋าพอๆ กับกัปตันคีน ก็เลยไม่ยื่นขาออกไปให้ใครบางคนแกล้งทำสะดุด เรื่องหน้าแตกของพลพรรคนักแสดงละครลิงทั้งหลายก็เลยเกิดขึ้นอีกครั้งประจานตัวเองไปในตัว
ถ้าใครบางคนที่ไม่ใช่แฟนผีถามผมว่า ‘แล้วพวกเด็กผีทั้งหลายไม่เคยทำหรือไง’ ผมก็จะยืดอกยอมรับเลยว่า ‘เคย’ เพียงแต่ว่าแทบทุกครั้งล้วนแต่เกิดจากการสัมผัสแม้เพียงแผ่วเบา แถมมันไม่ได้ถูกเผยกันจะจะอย่างนี้นี่หว่า แล้วป๋าเฟอร์กี้ไม่เคยหลุดวลี – – เราถูกโกง – – หรือ – – ขอโทษค่ะ บังเอิญดิฉันไม่เห็นเหตุการณ์ – – ซะด้วย 555
นอกจากจังหวะที่ผมเห็นแบบคาตานี้แล้วยังมีอีกหลายครั้งที่ลูกศิษย์โรงเรียนการแสดง ‘ป้าย่น ด.ดราม่า’ โชว์ให้เห็นถึงความหลอกลวง สร้างหลักฐานเท็จ และไม่น่าไว้วางใจแบบซึ่งๆ หน้าคล้ายกับนักการเมืองบางคน แถมไม่ใช่เฉพาะตอนคับขันนะ แต่มันทำตลอดทั้งเกม และไม่ใช่แค่คนสองคนแต่เป็นกัน ‘ทั้งทีม’ อันนี้มันบอกถึงอะไรถ้าไม่ใช่เรื่อง “ใจ” ถ้าจะร่ายต่อคือ พวกคุณไม่มีจิตวิญญาณของการเป็นนักฟุตบอลหรือการเป็นนักกีฬาที่ดีนั่นเอง
อยากให้ใครบางคนเห็นพัฒนาการของปีกโปรตุกีสของเราที่เคยเป็นจอมพุ่งหมายเลขหนึ่งในสายตาแฟนบอลทีมอื่น แต่ดูตอนนี้สิครับเจ้าน้องโด้ถูกเพื่อนร่วมทีมขัดเกลาให้เลิกนิสัยนี้ได้ นับว่าสถาบันโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นี่ล่ะสุดยอดที่สามารถสร้างนักกีฬาอาชีพตัวจริงขึ้นมาประดับวงการได้อีกคน อานิสงส์ผลบุญนี้ส่งให้เขาเป็นฮีโร่ทำสองประตูที่สำคัญให้แมนยูเดินออกจากไฮบิวรี่ อย่างสง่างาม ต่างจากนักเตะจากสถาบันคู่อริที่ยังจมกับการหลอกลวงตบตากรรมการอย่างที่เห็นๆ กันอยู่ ราวกับว่าเป็นหลักสูตรภาคบังคับไปซะแล้ว หลังจากเมื่อสองสามปีก่อนเน้นวิชา ‘แข้งโหด – ดิบ – เถื่อน’ เป็นหลัก – – ต่างกันยังไง?? … เผื่อใครบางคนถามขึ้นมา
ตามทฤษฎีของผมแล้วการที่ “ใจ” ของนักเตะเป็นอย่างนี้มันส่งผลไปถึงเกมในสนามด้วย ขยายความซักนิดมันก็คือสิ่งที่เรารู้กันอยู่แล้วว่าถ้าเราทำอะไรก็ตามด้วยความตั้งใจและทุ่มเท ผลลัพธ์ที่ดีมันก็ย่อมเกิดขึ้นตามมา ดูอย่างศิษย์รักของป๋าเฟอร์กี้ที่ถูกนำถูกยั่วยุต่างๆ นานาทว่ายังมุ่งมั่นกับเกมจนสำเร็จ ต่างจากอีกฝ่ายที่ยังไม่ถอดใจแต่คิดจะเล่นทางลัดด้วยหลักสูตรด้านลบที่อยู่ในกมลสันดาน ทำให้เกมชะงักกันเห็นๆ ประมาณว่าไม่คิดจะวัดกันที่ฝีมืออีกแล้ว ทั้งๆ ที่ตัวผู้เล่นไม่ได้เป็นรองซักนิด จนในที่สุดก็ต้องเป็นฝ่ายปราชัยไปอีกครั้ง กลายเป็นบันไดให้เราเหยียบขึ้นไปเป็นอันดับสองจนได้
ผลที่ออกมาผมเห็นว่าสมควรแล้วที่แมนยูได้รับตอบแทนความทุ่มเทและตั้งใจในสนาม ยังดีที่ ‘เธอคนนั้น’ ยอมรับว่าแพ้จริงๆ แบบไม่มีข้ออ้างตามมาทำให้ไม่เกิดข้อวิพากษ์เป็นชนวนการวิวาทต่อเนื่อง นับว่าน่านับถือในระดับหนึ่งทั้งๆ ที่น่าจะแค้นสุดขีดที่สถิติไม่แพ้ใครที่ไฮบิวรี่ ถูกบดขยี้เช่นเดียวกับสถิติไม่แพ้ใครในลีก 49 นัดที่ถูกจบไปตั้งแต่การพบกันครั้งที่แล้ว แต่ผมเชื่ออย่างนึงว่ากุนซืออย่างป้าย่นเวงเกอร์น่ะไม่ยอมให้ความพ่ายแพ้มาเป็นอุปสรรคการทำทีมหรอก เพราะฉะนั้นเจอกันครั้งหน้าอาร์เซน่อล ต้องแกร่งขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ
แต่ด้วยความสามารถ ฟอร์ม และใจของบรรดาอสูรสังหาร ณ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในจังหวะนี้ ต่อให้อาร์เซน่อล จะเก่งขึ้นหรือเชลซี จะทุ่มทุนซื้อนักเตะระดับโลกมาเพิ่มอีกซักครึ่งทีม ผมมั่นใจว่า ‘เราสามารถชนะได้ทุกทีม’ ส่วนเรื่องแชมป์พรีเมียร์ชิพปีนี้ที่ใครหลายคนบอกว่าต้องพึ่งปาฏิหาริย์สถานเดียว ขอบอกไว้เลยว่าถึงอย่างนั้นก็ระวังไว้เถอะปาฏิหาริย์มันอาจเกิดขึ้นก็ได้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เหอ เหอ
baki

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts

Max